SLEEPING BEAUTY นอนอย่างไรให้ผิวสวย

ชีวิตอาจจะเลือกเกิดไม่ได้…แต่เลือกที่จะ (ผิว) ดีได้ครับ ผมเคยได้รับ complain จากคนไข้หลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานจนดึกๆ ดื่นๆ หรือต้องเดินทางไปมาต่างประเทศบ่อยๆ คนไข้เหล่านี้มักประสบปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณอยู่เสมอ อาทิ เป็นสิวง่าย ผิวแห้งลอกเป็นขุย เป็นผื่นคันบ่อยๆ เหล่านี้ล้วนเกิดมาจากความเครียด

พอพูดเรื่องความเครียดหลายคนจะคิดถึงภาวะอารมณ์เครียด แต่รู้หรือไม่ครับ แม้ว่าใจจะไม่เครียด แต่ร่างกายก็เกิดภาวะเครียดได้ ความเครียดทางกายจะส่งผลให้เกิดการอักเสบของระบบต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งอวัยวะแรกที่จะแสดงอาการเมื่อร่างกายเกิดการอักเสบก็คือ “ผิวหนัง” เพราะถือเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญน้อยที่สุดในร่างกาย ถ้าเทียบกับเวลาสงครามก็เหมือนเบี้ยที่ลงสนามรบก่อน ส่วนสำคัญๆ อย่าง  สมอง  หัวใจโดนทีหลัง อาการอักเสบของผิวอาจแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ  กัน เช่น สิว  ฝ้า  ผื่นผิวหนัง  โรคผิวหนัง เช่น

Seborrheic Dermatitis, Rosecea, สะเก็ดเงิน (Psoriasis) โรคเริม หรือแม้กระทั่งภาวะผมร่วงที่เรียกว่า Talogen Effluvium ร่างกายคนเรามีสิ่งที่เรียกว่า Biological Clock แปลเป็นไทยง่ายๆ คือ นาฬิกาชีวิตนั่นเอง เจ้านาฬิกานี่ไม่ใช่  Patek ที่อยู่บนข้อมือนะครับ แต่เป็นประสาทสัมผัสที่รับรู้กลางวัน กลางคืนของคนเรา โดยเดินไปตามจังหวะเวลาขึ้นลงของดวงอาทิตย์ ทั้งนี้ประสาทจะรับรู้ถึงแสงสว่างและความมืดผ่านจอประสาทตา ส่งผ่านไปที่ Supra-chiasmatic Nucleus (SCN) ในสมอง

ส่วน Hypothalamus ช่วยควบคุมให้ระบบต่างๆทำงานกันอย่างสอดคล้อง พอแสงสว่างจากกดวงอาทิตย์ หมดไปสมองส่วน SCN จะกระตุ้นให้  Pineal-Gland หลั่งฮอร์โมน Melatonin ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ง่วงและนอนหลับสบาย ทำให้ร่างกายได้พักผ่อนผ่อนคลายความอ่อนล้าจากการใช้ชีวิตมาทั้งวันและด้วยเหตุเพราะฮอร์โมนตัวนี้จะแอคทฟี ในเวลามืดเท่านั้น จึงได้ชื่อเล่นว่า Dracula Hormone พอหลับสนิทร่างกายก็จะเริ่มหลั่ง Growth Hormone ซึ่งในเด็กจะช่วยเรื่องการเจริญเติบโต ส่วนในผู้ใหญ่ก็ช่วยซ่อมแซมในส่วนสึ่กหรอ หลังจากการพักผ่อน  6 – 8 ชม. ตื่นเช้า ปุ๊ป เจอแสงสว่างปั๊บ ระดับ เจ้าฮอร์โมนแดร็คคูล่าก็จะลดลง และเกิดการหลั่ง Cortisol ซึ่งช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานเพื่อนำไปใช้ในการประกอบกิจวัตรประจำวันแทน เห็นไหมครับว่า เรื่องง่ายๆ อย่างการนอนให้ตรงเวลานั้นสำคัญกับร่างกายและผิวพรรณขนาดไหน คนไข้หลายคนสงสัยครับว่า แล้วอย่างนี้คนที่อยู่คนละทวีปกัน กลางวันกลางคืนไม่เหมือนกัน นาฬิกาชีวิตเขาเดินต่างกันหรือเปล่าคำตอบคือ ใช่ครับ นาฬิกาชีวิตนี้จะเดินตามแสงสว่าง และนั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมเวลาเราเดินทางข้ามเขตเวลาที่ต่างกันมากๆ จึงเกิดอาการ Jet Lag เพราะร่างกายไม่สามารถปรับตัวต่อเวลากลางวันกลางคืนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้

มาถึงคถามสำคัญว่า ก็ชีวิตมันเลือกเกิดไม่ได้ แล้วจะทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพที่ดีได้หรือไม่? สำหรับคนที่ทำงานดึกๆ ดื่นๆ เป็นกิจวัตร เราสามารถไขลานนาฬิกาของตัวเองใหม่ได้ครับ อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่า นาฬิกาชีวิตเรามันเดินตามการขึ้นลงของดวงอาทิตย์ ดังนั้นในช่วงเวลากลางวันที่เรานอน ก็ควรปิดไฟและผ้าม่านให้มืดสนิท เพื่อให้ร่างกายรับรู้ว่าเป็นเวลากลางคืน ส่วนเวลาทำงานช่วงกลางคืนควรมีแสงสว่างมากพอที่จะไปกระตุ้นสมองส่วน SCN ให้ทำงาน การทำอย่างนี้เป็นกิจวัตร ร่างกายจะปรับกลไกของร่างกายได้เอง สิ่งสำคัญอยู่ที่การนอนหลับให้สนิท และเป็นเวลาเพียงพอ 6-8 ชม. ต่อวัน และยังสามารถปรับมื้ออาหารไปรับประทานกลางคืน แทนกลางวันได้ด้วยครับ คนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ เช่น อาชีพนักบิน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน มักประสบปัญหาหนักกว่าใครๆ เพราะ การเปลี่ยนเวลาเป็นแบบชั่วคราว แต่บ่อยๆ การรับประทานอาหารเสริม Melatonin 1-3 mg ก่อนนอน 3-4 ชั่วโมง จะช่วยเพิ่มระดับ Melatonin ในกระแสเลือดได้มากถึง 20 เท่า ทำให้รู้สึกง่วงนอนและสามารถ

ปรับเวลานอนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเมลาโตนินสามารถรับประทานได้จากอาหารในชีวิตประจำวันด้วยดังนั้นจึงไม่ถือเป็นยา แต่อย่างไรก็ตามควรระมัดระวังการรับประทานในคนที่มีโรคหัวใจความดันโลหิตสูง ภาวะสมองขาดเลือด โรคไตและสตรีมีครรภ์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเครียดให้กับผิวได้ลดความเสี่ยงที่จะมีสิว หน้าคล้ำ ผื่น-คัน ตาแพนด้า ศีรษะล้านแล้วล่ะครับ อย่างไรก็ตามการรับประทานเมลาโตนินควรใช้เท่าที่จำเป็นและใช้อย่างถูกวิธีนะครับ เพราะทุกอย่างให้คุณได้ ก็ให้โทษได้เช่นกัน การรับประทานเมลาโตนินอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ ง่วงนอนในเวลากลางวัน ซึมเศร้า มึนงง ปวดท้อง และไม่ควรรับประทานหากต้องขับรถหรือใช้เครื่องจักรที่อาจก่อให้เกิดอันตราย

ผิวสุขภาพดีอาจไม่ได้เกิดจากแค่การทำเลเซอร์นะครับ แต่ได้จากการดูแลผิวและทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวและที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพออย่างที่กล่าวมาแล้ว เพื่อให้ผิวได้มีโอกาสพักผ่อนแล ซ่อมแซมตัวเองบ้าง เท่านี้การมีผิวสวยก็เป็นสิ่งที่คุณกำหนดด้วยตัวเองได้แล้วครับ